วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

การเลือกซื้อปืนมือสอง ( ปืนออโต้ )




1.ตรวจสภาพภายนอกทั่วไป คือตรวจทั้งกระบอกว่าเรียบร้อยดีหรือไม่อย่างไร มีการรมดำใหม่หรือไม่ สภาพรมดำเป็นอย่างไร มีรอยร้าว หรือ รอยกระแทก หรือไม่อย่างไร
2. ตรวจแม็กกาซีน ต้องตรวจสอบว่า แม็กกาซีนมีร่องรอยการตกหล่น มีรอยบุบหรือไม่ ลิ้นแม็กกาซีนยังอยู่ในสภาพดีหรือไม่ความยืดหยุ่นของสปริงเป็นเช่นไร ให้ลองเสียบแม็กกาซีนเข้าตัวปืนแล้วดูการป้อนลูกว่าเป็นอย่างไร เมื่อไม่มีลูกในแม็กกาซีนแล้วดึงสไลด์ สไลด์ ค้างหรือไม่
3. ตรวจสภาพการทำงานของสปริงลำเลื่อน ให้กระชากลำเลื่อนดู โดยกระชากมาจนสุดแล้วปล่อย ลำเลื่อนต้องเลื่อนไปจนสุด ไม่มีอาการติดขัด และคล่องตัวดี
4. ตรวจคันห้ามไก ดูว่ายังใช้งานได้ดีหรือไม่ และหากเป็นปืนที่มีหลังอ่อน ก็ต้องตรวจสอบดูว่า สามารถยังทำงานได้เป็นปกติหรือไม่ ที่สำคัญก่อนจะทดลองเหนี่ยวไก ต้องให้แน่ใจเสมอว่าปืนกระบอกดังกล่าวไม่มีลูกกระสุนบรรจุอยู่
5.ตรวจตัวปลดล็อคลำเลื่อน ว่าสามารถทำงานได้เป็นปกติหรือไม่ คือเมื่อสไลด์ค้างอยู่เมื่อกดตัวปลดล็อคลำเลื่อน ลำเลื่อนต้องเดินหน้าได้ ไม่ค้าง
6. ตรวจสอบขอรั้งปลอกกระสุน เปิดลำเลื่อนให้ค้างดูว่า ขอรั้งปลอกสึกหรอไปมากหรือเปล่า โดยอาจตรวจสอบได้โดยเอาลูกดัมมี่ ใส่แล้วลองดึงลำเลื่อนเพื่อคัดลูกดัมมี่ออก ดูว่าปืนสามารถคัดปลอกได้ตามปกติหรือเปล่า
7. ตรวจสอบหน้าลูกเลื่อนและเข็มแทงชนวน หน้าลูกเลื่อนจะต้องไม่ขรุขระ ช่องทางเข็มแทงชนวนต้องอยู่ในสภาพเรียบร้อย เข็มสามารถโผล่ออกมาได้ และเข็มแทงชนวนจะต้องไม่หัก
8. ตรวจศูนย์ปืน ต้องตั้งฉากกับโครงลำเลื่อนหรือลำกล้อง ถ้าเป็นแบบปรับได้ ให้ทดลองหมุนสกรูสำหรับปรับดูว่ายังทำงานได้ตามปกติหรือไม่
9. ตรวจความฟิตแน่นของโครงปืน กับ ลำเลื่อน ใช้หัวแม่มือแตะไว้ที่บริเวณอันเป็นส่วนโครงปืน นิ้วชี้แตะที่ปากลำกล้องหรือส่วนปลายของลำเลื่อน แล้วฝลักขยับไปมาเพือ่ดูอาการหลวมหรือช่องว่างระหว่างโครงปืนกับโครงลำเลื่อน ต้องไม่คลอนมาก ยิ่งฟิตแน่นยิ่งดี
10. ตรวจสอบลำกล้องและการทำงานโดยรวม ลำกล้องต้องไม่มีอาการบวม มีเกลียวเห็นได้ชัดไม่เป็นสนิมหรือเป็นตามด ถ้าเจ้าของให้เราลองยิงได้ ก็ลองยิงดูว่า ปืนทำงานปกติหรือไม่ มีติดขัดหรือเปล่า
11. ตรวจสอบทะเบียนปืน ว่าตรงกับป.4 หรือเปล่า
ทั้ง 11 ข้อนี้เป็นแนวทางคร่าวๆ สำหรับการเลือกซื้อปืน แต่จะให้ดีแล้วถ้าท่านเป็นมือใหม่มากๆ เวลาไปหาซื้อปืนมือสอง ให้พาคนที่เป็นไปด้วยจะได้ไม่เสียใจภายหลัง

การเลือกซื้อปืนมือสอง ( ปืนลูกโม่ )


การเลือกซื้อปืนลูกโม่มือสองนั้นมีหลักสำคัญที่ต้องคอยดูอยู่ 10 ข้อด้วยกันครับ
1. สภาพภายนอก ต้องดูสภาพภายนอกว่ามีตำหนิ มีรอยขีดข่วนมากหรือเปล่า การรมดำเป็นการรมดำใหม่หรือรมดำเก่า สภาพต่างๆเหล่านี้ล้วนบอกได้ถึงการดูแลรักษาปืนของเจ้าของเป็นอย่างดี บางครั้งแค่ดูแค่สภาพภายนอก ก็ทำให้เราตัดสินใจไม่ซื้อได้เสียแล้ว ถ้ามันโทรมมากจริงๆ หรือถ้าเป็นการรมดำใหม่ ก็ต้องดูครับว่ารมใหม่เพราะอะไร โดยมากมักเป็นสนิมแล้วจึงนำไปขัดถูรมดำกันใหม่ ...ถ้าดูแล้วเราพอจะรับสภาพภายนอกได้ ก็ดูข้อถัดไปเลยครับ

2. ลำกล้องปืน ลำกล้องปืนเป็นสิ่งสำคัญ ปืนกระบอกนี้จะยิงแม่นหรือไม่แม่น ลำกล้องเป็นส่วนสำคัญทีเดียว ก่อนอื่นต้องดูว่า ลำกล้องบวม หรือร้าวหรือปล่าว ถ้ามีอาการดังกล่าวก็บอกผ่านไปได้เลยสำหรับปืนกระบอกนี้ ได้ไม่คุ้มเสียครับ วิธีตรวจลำกล้องปืนให้เปิดโม่ออกหันส่วนโคนลำกล้องรับกับแสงสว่าง ใช้หลังเล็บหรือเศษกระดาษขาวรองให้ห่างโคนลำกล้องประมาณนิ้วครึ่งแล้วมองทางปากลำกล้องลงไป เกลียวอาจจะสึกไปบ้าง หมายถึงปืนผ่านการยิงมาเยอะ หรืออาจจะมีสนิมบ้าง ขออย่าให้ถึงกับกินลงไปจนเป็นหลุม เหล่านี้พอจะซื้อได้ โดยเราอาจจะต่อรองราคาลงมาได้อีก แต่ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่า ปืนลำกล้องร้าว บวม ต้องไม่เอาครับ
3. คันคัดปลอกกระสุน ต้องไม่คด โดยวิธีการตรวจคือเปิดโม่ออกมาแล้วลองหมุนโม่ดู ถ้าโม่หมุนราบเรียบไม่มีการแกว่งก็ถือว่าคันคัดปลอกตรง หลังจากนั้นลองเอาปลอกกระสุนใส่ให้เต็มทุกช่องของรูโม่แล้วลองดันคันคัดปลอกกระสุน ถ้าปลอกทุกปลอกสามารถถูกยกขึ้นมาได้พร้อมกันโดยไม่มีปลอกไดไม่ขึ้นมาหรือหลุดล่วงลงไป ก็ถือว่าแป้นยกท้ายกระสุนยังใช้ได้ดี
4. ตรวจดูช่องโม่ ในช่องโม่แต่ละช่อง ต้องราบเรียบไม่มีรอยสนิมไม่มีรอยร้าวหรือมีผิวขรุขระ โดยวิธีการตรวจให้หันช่องโม่เข้าแสงสว่างแล้วตรวจดูทีละช่อง
5. โม่ที่ดีต้องไม่หลวมคลอน โดยวิธีการตรวจ เมื่อโม่ถูกผลักเข้าไปในโครงปืนแล้วทดลองจับโม่หมุนซ้ายขวาโม่จะหมุนคลอนได้เล็กน้อย ขั้นต่อไปให้ง้างนกมาเป็นจังหวะ ซิงเกิ้ลแล้วทดลองจับโม่หมุนไปมาอีกครั้ง โม่จะต้องนิ่งสนิทไม่ไหวคลอน
6. สลักล็อคโม่ ต้องทำงานได้เรียบร้อย ปลดล็อคได้ราบรื่นไม่หลวมหรือแน่นจนเกินไป เมื่อโม่เข้าไปล็อคในโครงปืนแล้วลองเอามือผลักดู โดยไม่กดสลักล็อคโม่ โม่ต้องไม่สามารถหลุดออกจากโครงปืนได้
7. เข็มแทงชนวนจะต้องไม่หัก และต้องมีแรงพอจะสับให้แก๊ปท้ายกระสุนแตกได้
8. นกสับ จะต้องสับตรงไม่เบียดโครงปืนด้านใดด้านหนึ่ง โดยดูบริเวณรอบนกสับ ถ้าโครงปืนเป็นรอยเสียดสีกับนกสับให้หลีกเลี่ยงปืนกระบอกนั้นๆ
9. ศูนย์ปืนต้องตั้งฉาก ไม่มีรอยกระแทกซึ่งหมายความว่าปืนกระบอกดังกล่าวอาจจะตกมาแล้ว ศูนย์หลังถ้าเป็นแบบปรับได้ต้องดูไม่ให้หลวมคลอนมาก ลองเอาไขควงปรับดูว่าสามารถปรับซ้ายขวา สูงต่ำได้ตามปกติหรือไม่
10. ทดลองระบบการทำงาน โดยลองยิงดูทั้งแบบซิงเกิ้ลและดับเบิ้ลว่าระบบทำงานโดยปกติหรือไม่ ปืนสามารถสับกระสุนแตกทุกนัดหรือเปล่า การคืนไกปกติหรือไม่

การลับมีดรณยุทธ์


การลับมีดรณยุทธ์
มีดที่พวกเรานิยมซื้อมานั้น จะมีใบมีดเพียง 3 แบบเท่านั้น คือ ใบมีดเรียบธรรมดา , ใบมีดหยักทั้งหมด และครึ่งนึงหยักและอีกครึ่งนึงเรียบ


1.ใบมีดแบบเรียบ นั้น จะถูกลับคมทั้งสองด้านของใบมีด เพื่อให้เกิดความคม ดังนั้น การจะลับให้คม ต้องลับคมทั้งสองด้านเท่าๆกัน จนกว่าจะเกิดมุมคมสูงสุด


2.ใบมีดแบบหยักทั้งหมด ถ้าสังเกตุให้ดี เป็นการลับคมเพียงด้านเดียว คือ ด้านรอยหยักนั่นแหละ ส่วนอีกฝั่งจะเรียบไม่มีรอยลับเลย ถ้า เราเปิดมีดใบหยักด้วยมือขวา แล้วเห็นรอยหยักแสดงว่าเป็นมีดของคนมือขวา แต่ถ้า เราเปิดมีดด้วยมือขวา แต่ด้านรอยหยักกลับอยู่ข้างล่างแทน แสดงว่าเป็นมีดสำหรับมือซ้าย
การจะลับมีดด้วยหินลับมีดธรรมดาหรือตัวลับแบบที่มีร่องให้เอาใบมีดลงไปลับนั้น ไม่ควรทำเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดรอย และไม่สามารถทำคมได้เท่าที่โรงงานทำมา การจะลับใบมีดนั้นเราจะต้องลับเฉพาะส่วนที่ทำมุมให้เกิดคมเท่านั้น บริเวณใบมีดนอกเหนือคมอย่าให้โดน จะได้ไม่เป็นริ้วรอย หรือเกิดตำหนิ จะทำให้ไม่อยากใช้มัน มีคนเป็นจำนวนไม่น้อยที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์นำมาลับด้วยหินลับมีดธรรมดา หรือบางคนอาจใช้ลูกหมุน ลูกขัดเงา ทำให้ใบมีดไม่คมเท่าโรงงานและเกิดริ้วรอยเต็มไปหมด บางคนถึงกับยกให้เพื่อนไปฟรีๆ จะได้ซื้อเล่มใหม่
หินลับมีดอันนี้ เป็นหินลับมีดยี่ห้อ Spyderco รุ่น SP 204 MF
เมื่อสังเกตุดูในภาพจะเห็นหินลับมีดสีขาวแท่งสามเหลี่ยมยาว ( 7 นิ้ว ) ปักอยู่สองด้าม ดูเหมือนรูปตัว V แท่งลับมีดสามเหลี่ยมสีขาว( ทั้ง2ด้าม) นั้น ปักอยู่ในฐานจับแบบพลาสติก โดยหันเหลี่ยมออก โดยทำมุม 68 องศา มุมองศาที่ใบมีดทำกับหินลับมีดนั้น จะไม่เกิน 25 องศา แต่ Spyderco เลือกมุมที่ใบมีดจะทำมุมกับหินลับมีด คือ 22 องศา คือมุมที่จะเกิดคมสูงสุด
ดูตามรูปในรุ่น SP 204 MF สมมุติว่าเรามีเครื่องลับมีดรุ่นนี้อยู่ ให้เราเลือกหินลับมีดแท่งสามเหลี่ยมสีขาวขึ้นมา 2 ด้าม (หินลับละเอียด) ส่วนแท่งสีน้ำตาล จะเป็นหินลับหยาบ ( ไม่เคยใช้เลย) เอาเจ้าแท่งลับสีขาวปักเข้าในฐานพลาสติกที่ให้มาด้วย ตามรูป มันเป็นรูปตัว วี เห็นแท่งทองเหลืองที่ชี้โด่เด่ด้านซ้าย2อันไหม มันใช้สำหรับกันมีดแฉลบบาดมือเท่านั้น

การจะลับมีดแบบใบเรียบหมดให้ปฏิบัติดังนี้ จับมีดด้วยมือขวา ให้เริ่มลับจากส่วนโคนใบมีดไปหาปลายมีด โดยให้คมใบมีดด้านซ้าย ( โคนสุดของใบมีด ) ไปจดตรงยอดสุดของหินลับด้านซ้าย จับใบมีดให้ตรงในแนวดิ่ง ค่อยๆกดใบมีดลงในแนวดิ่ง พร้อมกับค่อยดึงใบมีด ให้คมใบมีดตั้งแต่โคนค่อยๆไหลลับไปกับหินลับ จนกระทั่งปลายใบมีดมาสุดที่โคนของหินลับมีด การจะลับให้คม อย่ากดใบมีด ห้ามใช้แรง ค่อยๆทำ เมื่อลับคมด้านซ้ายของใบมีดแล้ว ให้ลับคมทางด้านขวาด้วย โดยใช้วิธีเดียวกัน โดยจดคมด้านขวากับปลายหินลับเล่มด้านขวา แล้วค่อยๆกดให้ใบมีดลับไปกับหิน พร้อมกับดึงใบมีด ให้คมใบมีดเริ่มแต่ส่วนโคนค่อยไหลลับไปกับหินลับ จนกระทั่งคมของปลายใบมีดมาสุดที่โคนของหินลับมีด ให้เราลับทั้งซ้าย-ขวาสลับกัน เท่าๆกัน ลับข้างละ 3-4 ครั้ง ก็พอ ให้ลองใช้นิ้วแตะดู หรือลองโกนขนแขนดู ถ้ายังคมไม่พอ ให้ค่อยๆลับ อย่าทำแรง ใจเย็นๆ บางครั้งต้องใช้แว่นขยายส่องพระดูคมด้วย ลับไป เช็คความคมไป จนกว่าจะพอใจในความคม


ส่วนการจะลับใบมีดแบบหยักนั้นก็ทำเช่นเดียวกัน แต่เราลับคมใบมีดเพียงด้านเดียวเท่านั้น การลับคมฟันหยักก็ใช้เพียงหินลับมีดสีขาว ทางด้านซ้ายด้านเดียว อันขวาไม่ต้องใช้ ให้ใช้วิธีการเดียวกัน ขณะที่เราลับ เราจะเห็นคมรอยหยักลับไปกับมุมหินลับ( ไหลไปอย่างช้าๆ ) จนสุดปลายมีด


ส่วนการลับใบมีดแบบใบเรียบครึ่งใบหยักครึ่งก็ใช้วิธีเดียวกัน ใบมีดเรียบจะลับคมสองด้าน ก็ใช้หินลับสามเหลี่ยมซ้าย- ขวา ส่วนใบรอยหยักครึ่งนึงที่เหลือ ก็ลับด้านเดียว อย่าเผลอไปลับสองด้านซะล่ะ 

การแต่งโคลท์ ซีรี่ส์70


ตามที่ได้เคยเขียนไว้แล้วว่า ปืนที่จะมีความแม่นยำ จะต้องเป็นปืนที่มีโครงปืนและสไลด์ ฟิตแน่นพอดี ไม่หลวมคลอน แต่บางครั้งเราอาจได้ปืนที่ไม่ได้ฟิตพอดี ดังนั้นเราจึงต้องมีการแต่ง ผมขอลำดับขั้นตอนการแต่งดังต่อไปนี้ 
1. ต้องดูว่าโครงปืนกับสไลด์ฟิตแน่นพอดี ถ้าไม่หลวมมาก เราอาจแต่งด้วยการเคาะเฟรม ด้วยแผ่นชิม ( นอก ) ที่ทำมาสำหรับเคาะเฟรมโดยตรง จะต้องทำให้ร่องตัวเฟรมบีบกับสไลด์ได้พอดี อัตราการเคลื่อนตัวมากทำให้กลุ่มกระสุนไม่ดี ถ้าปืนไม่หลวมมาก อาจใส่ไกด์ร๊อดช่วย ไกด์ร๊อดจะช่วยให้สไลด์วิ่งขนาดกับลำกล้อง และช่วยให้ลำกล้องกลับคืนสู่ตำแหน่งการล็อคได้แม่นยำขึ้น…….ถ้าปืนฟิตแน่นพอดี ไม่จำเป็นต้องใส่ไกด์ร๊อดก็ได้ 
2. ลำกล้อง , โตงเตง , บูชหน้า , และฮูทตัวบน ( ลิ้นลำกล้อง ) ต้องเสียบเข้ากับเฟรมสไลด์พอดี ลำกล้องต้องเป็นลำกล้องแข่งยี่ห้อดีๆ ที่มีขายอยู่ทั่วไป ปืนเมื่อลั่นกระสุนออกไป สไลด์ถอยหลังเป็นอิสระ แต่พอสไลด์เริ่มกลับ…กระสุนเข้ารังเพลิง ลำกล้องกระดกขึ้น ล๊อคกลอน ให้กลับคืนที่เก่า ได้อย่างพอดี ช่างที่เก่งๆ ก็คือ ทำทุกอย่างให้ฟิตพอดี ไม่ใช่ฟิตเกินไป อาจแยมเก่ง 
3. แต่งชุดลั่นไก เป็นส่วนสำคัญอันดับต่อมา ตัวไกต้องเปลี่ยนให้เบา นกปืนต้องฟาดลงเร็ว เซียร์ต้องดี แหนบสี่ชาย สปริงนกสับ ฯลฯ ไกควรจะคม ไม่หนักมาก น้ำหนักไกอยู่ประมาณ 21/2- 3 ปอนด์ ต่ำกว่านี้จะไม่ปลอดภัย 
4. ต้องติดศูนย์ให้มองเห็นได้ชัดและถนัด 
5. ต้องทำด้ามปืนให้ดี 
ช่างเก่งๆ ต้องทำให้ทุกอย่างพอดี และสามารถใช้งานได้ทน การใช้อะไหล่ดีๆก็ช่วยให้ทนขึ้นเช่นกัน 
...ถึงปืนจะดีขนาดไหน ก็ต้องบวกกับฝีมือของผู้ยิงด้วย แบบว่า…..ห้าสิบห้าสิบ. 

ขากล้อง B square



ขากล้อง B- square ใส่ปืน 1911 ( ไม่เจาะโครงปืน ) จะเป็นขาเดี่ยว ที่ต้องถอดประกับปืนด้านหนึ่งออก และใช้สกรูยึดประกับปืนเป็นตัวยึดขากล้อง ดังนั้นจึงไม่แข็งแรงและแน่นหนา เท่าขากล้องที่เจาะยึดน็อตติดโครงปืน
ขากล้องเจาะยึดน็อตติดโครงปืนใส่กล้องจุดแดง มีทั้งขาเดี่ยวและขาคู่ ใส่น็อตยึดขาข้างละ 3-4 ตัว เดี๋ยวนี้ขากล้องแบบยึดน็อตที่ใช้กันอยู่ ทำในเมืองไทย เกือบ 80% ดังนั้นจึงสามารถสั่งทำขาเดี่ยวหรือขาคู่ได้ตามสะดวก ตามความต้องการของผู้ใช้ อาจกำหนดน็อตยึดขาข้างละกี่ตัวก็ได้ตามสั่ง
การเจาะน็อตยึดขากล้องติดโครงปืนปืน...ย่อมต้องมีรูเจาะให้เห็นเป็นรอยอยู่บ้าง แต่การเจาะยึดขากล้องด้วยน็อตติดโครงปืน...ย่อมแน่นหนามั่นคงเหมาะกับการใช้งาน ดังที่เห็นในปืนที่ใช้ใน ระบบ IPSC
หากต้องการใส่ชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ได้ใช้งานจริงจัง ขากล้อง B-square ย่อมทดแทนได้

ไอ้นกต่อมรณะ


มันดูเหมือนโทรศัพท์มือถือทุกประการ แต่ภายใต้หน้ากากปุ่มกดนั้นกระสุน .22 จำนวน 4 นัด นอนนิ่งอยู่พร้อมให้มือสังหารเพียงแตะนิ้วไล่ไปยังปุ่มที่ 5 ถึง 8 บนแป้นเพื่อสั่งให้ฑูตมรณะทำงานผ่านลำกล้องที่อยู่ในส่วนของเสาอากาศไปสู่เหยื่อของมัน "DEADLY DECOY" หรือ "นกต่อมรณะ" คือฉายาที่สื่อมวลชนและหน่วยงานของรัฐในหลายประเทศพร้อมกันตั้งฉายาให้กับมัน มันถูกค้นพบครั้งแรกในการจู่โจมรังของกลุ่มค้ายาเสพติดในอัมสเตอร์ดัม จากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญพอจะสรุปได้ว่าเจ้านกต่อมรณะตัวนี้ถูกออกแบบและผลิตโดยผู้ชำนาญการชั้นสูง และสันนิษฐานกันว่าผลิตจากประเทศยูโกสลาเวีย นักข่าวเอบีซี นิวส์ ออกสัมภาษณ์ตำรวจและหน่วยงานปราบปรามหลายแห่งในหลายประเทศ ต่างลงความเห็นกันไว้ว่าเจ้านกต่อมรณะตัวนี้คือวิวัฒนาการใหม่ล่าสุดของการสังหารที่อันตรายอย่างสูง ต่อไปนี้ผู้รักษากฎหมายคงต้องรีบชักปืนออกจากซองทุกครั้งเมื่อผู้ต้องสงสัยแตะต้องโทรศัพท์มือถือ

ปืนสังหาร ประธานาธิบดี ลินคอล์น



ปืนพกกระบอกจิ๋วที่เห็นในรูปนี้ นาย จอห์น วิล์ก บูท ได้ใช้ยิง ปธน. ลินคอล์น ที่ศีรษะด้านหลังใกล้กับหูซ้ายด้วยปืน
เดอ์ริงเจอร์ ซึ่งผลิตโดย เฮนรี่ เดอ์ริงเจอร์ แห่ง ฟิลาเดลเฟีย มันมีความยาวราวๆ 6 นิ้ว ลำกล้องยาว 2 1/2" มีน้ำหนักแค่ 8 ออนซ์ (227 กรัม) มันยิงด้วยกระสุนขนาด .44 ไกและส่วนจับยึดทำจาก(แร่)เงินเยอรมัน และมีกล่องเล็กๆที่ปลายด้ามและแก๊ปกระสุนสำรอง ปืนเดอ์ริงเจอร์ถูกพบตกอยู่บนพื้นของบริเวณที่นั้งแขกพิเศษของโรงละคร ฟอร์ด โดยนาย วิลเลี่ยม ที เค้นท์ หลังจากการรอบสังหาร ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ในชั้นใต้ดินของพิพิธภัณฑ์โรงละครฟอร์ด 

มือใหม่หัดยิง


มือใหม่หัดยิง (เหมาะสำหรับมือใหม่เท่านั้นครับ มือเก่าจะอ่านก็ไม่ว่ากันครับ)

ในสนามยิงปืนนั้นมีนักกีฬายิงปืนผู้คร่ำหวอด มือเก่าเล่ายี่ห้อ ลูกหลาน เพื่อนๆ รวมทั้งมือใหม่เพิ่งหัดยิง หรือมือเก่าแต่นาน ๆ มายิงสักครั้ง สิ่งที่พวกเรากลัวก็คือ นักยิงปืนมือใหม่นี่แหละครับ ที่กลัวก็คือปืนจาก ท่านเหล่านั้นจะเกิดอุบัติเหตุจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ไปโดนผู้อื่น

ผมจึงขออนุญาตชี้แจงตามประสบการณ์ มิใช่ตามตำราเพื่อนักยิงปืนมือใหม่จะได้ไม่พลาดพลั้งกัน เพราะถ้าพลาดหมายถึงการสูญเสียและเป็นคดี ความ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียใจที่สุด 
ก่อนยิง
.
1. การนำปืนเข้าช่องยิง ถ้าเป็นปืนสั้นลูกโม่ ให้เปิดโม่ออก ถือปืนโดยปากกระบอกชี้ขึ้นด้านบน เอานิ้ว ออกนอกโกร่งไก ถ้าเป็นปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ ให้เปิดลำเลื่อนค้างไว้ ถือปืนโดยปากกระบอกชี้ขึ้นด้านบน เอานิ้วออกนอกโกร่งไก ถ้าเป็นปืนยาวลูกเลื่อนให้เปิดลูกเลื่อนค้างไว้ ถือปากลำกล้องขึ้นด้านบน

2. อย่าบรรจุกระสุนก่อนเข้าช่องยิง เดินเข้าช่องยิงให้เรียบร้อยเสียก่อน

3. ทำการตรวจดูลำกล้องและรังเพลิงว่ามีเศษผ้า สำลี หรือสิ่งใดค้างอยู่หรือไม่ ถ้ามี (แม้แต่เล็กน้อย) ต้องเอาออกให้หมด คราบน้ำมันหล่อลื่นมากๆ จนเยิ้ม จารบีในลำกล้อง ต้องเช็ดออกให้หมดก่อนยิง ห้ามใช้วิธีการ “ยิงไล่” เพราะปืนท่านจะเสียหาย อย่างน้อยที่สุดก็คือลำกล้องบวม

4. เมื่อจะบรรจุกระสุน ให้หันปากกระบอกปืนไปยังเป้าเสียก่อน

5. เมื่อปืนบรรจุกระสุนแล้ว ปากกระบอกจะต้องชี้ไปยังเป้าอยู่เสมอ 
.
เมื่อทำการยิง
.
1. เมื่อได้รับสัญญาณหยุดยิงจากผู้ควบคุม ต้องหยุดยิง เข้าห้ามไก และวางปืนทันที และไม่แตะต้องปืนอีก เป็นอันขาด โดยเดินถอยหลังห่างออกจากปืนของท่านอย่างน้อย 2 ก้าว หยุดรอจนกว่าจะได้รับสัญญาณ อนุญาตยิง

2. ขณะยิงเมื่อกระสุนด้านไม่ลั่น อย่า อย่า และ อย่า รีบลดปืนลงทันที ให้ถือปืนค้างไว้โดยลำกล้องชี้ ไปยังเป้า นับ 1 ถึง 10 ในใจช้าๆ เหตุผลก็คือ กระสุนอาจจุดระเบิดช้าเนื่องจากความชื้นในดินปืนหรือ แก๊ปหรือเหตุอื่นใดก็แล้ว แต่หากท่านรีบลดปืนลงเพื่อตรวจปืนหรือขึ้นลำกระสุนใหม่ ลูกปืนอาจลั่นจังหวะนั้น ซึ่งผมเคยเจอว่า ยิงไม่ลั่น พรรคพวกรีบขึ้นลำเลื่อนใหม่ทันทีเพื่อเอากระสุนด้านออก โชคดีก็คือขณะ กระสุนที่คิดว่าด้านนั้นกำลังจะตกถึงพื้นก็ลั่นทันทีและไม่โดนใคร แต่ก็หน้าซีดกันเป็นแถว

3. ขณะยิงถ้าได้ยินเสียงปืนตนเองดังค่อยกว่าปกติ อย่ารีบยิงนัดต่อไป เพราะว่าดินขับเผาไหม้ไม่หมด หัวกระสุนอาจจะค้างอยู่ในลำกล้อง ให้ทำดังนี้คือ ในปืนลูกโม่ต้องปลดโม่ออก และตรวจดูลำกล้องว่าหัว กระสุนค้างอยู่ในลำกล้องหรือเปล่า ถ้าค้างก็ต้องเอาออกโดยปรึกษาเจ้าหน้าที่สนามซึ่งมีหน้าที่บริการให้ ท่าน ถ้าท่านยังขืนยิงต่อโดยเข้าใจผิดว่าให้ลูกปืนนัดใหม่ไปดันหัวกระสุนค้างออกไป สิ่งที่ท่านจะได้รับก็คือ ปืนจะระเบิดในมือท่านเหมือนท่านกำระเบิดมือและให้มันระเบิดบนมือยังไงยังงั้น แต่ถ้าท่านโชคดีที่ กระสุนไปค้างระหว่างช่องโม่กับลำกล้อง ปืนก็ยิงต่อไปไม่ได้เพราะโม่ไม่หมุน ถ้าเป็นปืนออโต้ สังเกต ได้ง่ายเพราะลำเลื่อนจะไม่ถอยหลัง ท่านจะต้องดึงแม๊กกาซีน ออก ดึงลำเลื่อนเพื่อนำกระสุนออก สังเกตว่ามีหัวกระสุนติดกับปลอกหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็ให้ตรวจลำกล้องด่วน

4. ท่านที่ใช้ปืนออโต้และปืนของท่านสลัดปลอกกระสุนได้แรงและไกล ขอให้ขยับฉากกันปลอกกระสุน (เกือบทุกสนามจะมี) ให้อยู่ในสภาวะที่สามารถป้องกันปลอกกระสุนท่านไปรบกวนคนอื่นในช่องข้างเคียง

5. อย่ายิงปืนโดยทำท่าเป็นคาวบอย คือนำปืนใส่ซองข้างเอวหรือสะโพก แล้วชักขึ้นมายิงทันที ผมเห็น กับตาเลยว่าปืนลั่นเข้าต้นขากระสุนชอนไชมาระเบิดออกที่หัวเข่า (พิการครับ) ถ้าท่านอยากทำยังงั้น จริงๆ ให้ซ้อมแบบยิงแห้งดีกว่าครับ แล้วไปหัดชักยิงจริงๆ ในป่าไกลๆ ผู้คนโน่นเลยครับ

6. ถ้าท่านมีกระสุนยิงมากเป็นร้อยๆ นัด ควรทำความสะอาดปืนบ้าง เพื่อขจัดเขม่าและความสกปรก ออกไป ไม่ใช่เพื่อให้ปืนดูสะอาด แต่ทำเพื่อให้กลไกของปืนทำงานเป็นปกติ โดยเฉพาะปืนที่ทำงานด้วย ระบบแก๊สในการบริหารกลไก มีตัวอย่างในการแข่งขันยิงลูกซองรายการหนึ่ง ยิงกันเป็นร้อยนัด ปรากฎ ว่าปืนกระบอกหนึ่งเป็นแบบบริหารกลไกด้วยแก็ส ยิงจนมีเขม่าที่รังเพลิงมาก กระสุนนัดหนึ่งเข้ารังเพลิง ไม่100% ลูกเลื่อนก็เลยไม่ขัดกลอน 100% ด้วย พอเหนี่ยวไกปั๊บ กระสุนถอยหลังออกมาระเบิดในช่อง คายปลอก ปืนพังเลย โชคดีคนไม่พังตามปืนไปด้วย

7. ท่านที่ยิงปืนยาวระบบลูกเลื่อน ให้เอานิ้วออกจากไกปืนก่อนปิดลูกเลื่อน ผมโดนกับตัวเองเลยคือ ผู้ ยิงท่านนั้น (มือใหม่) ไม่ได้เอานิ้วออกจากไก หลังจากดันลูกเลื่อนป้อนกระสุนนัดใหม่ พอตบลูกเลื่อนลง สุดปืนลั่นตูมเลย ดีที่ลำกลัองหันขึ้นด้านบน แต่กระนั้นหัวกระสุนกระทบซีเมนต์แตกเป็นสะเก็ดตะกั่วเล็กๆ มาฝังที่ไหล่ผม (ตอนนี้ยังมีแผลเป็นอยู่เลย) ถ้าเข้าตาวันนั้นตาบอดแล้วครับ ตาขวาซะด้วย
หลังยิง
.
1. ตรวจปืนให้เรียบร้อยว่าไม่มีกระสุนค้างในรังเพลิง ลูกโม่

2. เปิดโม่หรือค้างลำเลื่อนก่อนออกจากช่องยิง นำปืนออกนอกช่องยิงโดยนิ้วชี้อยู่นอกโกร่งไก ลำ กล้องชี้ขึ้นด้านบนเสมอ

3. เป้าปืนของท่านที่ยิงแล้ว และไม่ต้องการนำกลับไป กรุณาเอาออกจากช่องยิงไปทิ้งด้วย (ตาม มารยาท)

4. ทำความสะอาดปืนทันทีอย่าทิ้งค้างคืนไว้เป็นอันขาด มิฉะนั้นปืนท่านจะเป็นสนิมเร็วมาก

5. ถ้าท่านใช้บริการล้างปืนตามสนาม น้ำมันที่ใช้ล้างนั้นเป็นน้ำมันก๊าด จะล้างแค่เขม่าออกเท่านั้น แต่ คราบตะกั่ว สารประกอบอื่นๆ ที่เกิดจากการเผ้าไหม้ยังล้างไม่หมด คุณควรล้างด้วยน้ำยาล้างปืนจริงๆ อีกครั้งที่บ้าน ใช้ยี่ห้อใดก็ได้ที่ระบุว่าใช้ขจัดคราบเขม่าและตะกั่ว

ถ้าท่านปฏิบัติตามข้อแนะนำข้างต้นแล้ว ท่านจะยิงปืนได้อย่างมีความสุข สนุกสนาน และปืนจะอยู่กับท่าน ตราบนานเท่านานครับ

ข้อมูลสำหรับผู้ที่คิดจะมีปืนสั้นได้กระบอกเดียว



จะเลือกปืนสั้นลูกโม่หรือออโต้ อันไหนดีกว่ากัน?

ข้อมูลสำหรับผู้ที่คิดจะมีปืนสั้นได้กระบอกเดียว และเลือกไม่ถูกว่าจะใช้ลูกโม่หรือออโต้ดี ผมมีข้อมูลช่วยตัด สินใจ แต่ผมขอย้ำว่าเป็นเพียง "ข้อมูล" เพื่อช่วยใช้ในการพิจารณาของท่านเท่านั้นครับ อนึ่ง ผมจะไม่ พูดถึงความแม่นยำ เพราะปืนทั้ง 2 แบบนี้ในปัจจุบันความแม่นยำพอๆ กันครับ และไม่เปรียบเทียบกับปืนที่ ทำขึ้นมาเป็นพิเศษในแต่ละแบบนะครับ เปรียบเทียบกันระหว่างปืนตลาดพื้นๆ ที่ประชาชนธรรมดาพึงหาซื้อ ได้ไม่ยากครับ ลองดูจากตารางเปรียบเทียบนะครับ
ข้อดี
ปืนลูกโม่
ปืนออโต้
1. ใช้งานง่ายยิงได้ทันทีที่ดึงจากซอง1. บรรจุกระสุนได้มาก บรรจุกระสุนได้เร็วกว่าด้วยแม็กกาซีนอก
2. เมื่อกระสุนด้าน สามารถเหนี่ยวไกยิงนัดต่อไปได้ทันที2. รังเพลิงกับลำกล้องเป็นส่วนเดียวกัน ไม่มีแก๊สรั่วจึงได้ความเร็วกระสุนเต็มที่
3. กลไกการยิงไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น3. ระบบความปลอดภัยดีกว่า
4. ส่วนใหญ่สามารถยิงได้ทั้งง้างนกและไม่ง้างนก4. แบบปืนเรียบเนียนกว่า พกสะดวก
5. ยิงกระสุนได้ทุกแบบ ทุกหัวกระสุนในโม่เดียวกัน และไม่เลือกความแรงของกระสุน5. ยิงซ้ำได้รวดเร็วกว่า
6. บางแบบสามารถยิงกระสุนที่หน้าตัด เท่ากันได้หลายขนาด เช่น ปืน .357 แม๊กนั่ม สามารถยิงลูก .38 สเปเชี่ยลได้ทุกขนาด หรือ .22 LR ก็สามารถยิงลูก .22 Long หรือ .22 Short ได้6. ทำความสะอาดได้ทั่วถึงดีกว่า
7. มีส่วนเคลื่อนไหวน้อย ทำให้สึกหรอน้อยกว่าออโต้ ลูกโม7. ส่วนใหญ่จะยิงได้ระบบเดียวหลังจากนัดแรก เช่นซิงเกิ้ลล้วนหรือดับเบิ้ลล้วน
ข้อเสีย
ปืนลูกโม่
ปืนออโต้
1. บรรจุกระสุนได้น้อย 5-7 นัด1. กลไกซับซ้อน ต้องฝึกฝนมากจึงจะใช้ได้ดี
2. บรรจุกระสุนใหม่ได้ช้ากว่าออโต้2. ถ้ากระสุนด้าน จะต้องเสียเวลาขึ้นลำใหม่
3. มีรอยต่อระหว่างลูกโม่กับลำกล้อง ทำให้แก๊สบางส่วนหลุดรอดออกมาได้ความเร็วกระสุน ไม่เต็มที่และ บางทีก็มีสะเก็ดเขม่าปลิวออกมาข้างๆ ด้วย บางยี่ห้อทำไม่ดีทำช่องโม่ไม่ตรงลำกล้อง ทำให้ลูกกระสุนถูก ลำกล้องเฉือนเสียทรง ทำให้ขาดความแม่นยำ3. กระสุนจะต้องใหม่เสมอ เพื่อที่จะมีดันสูงพอที่จะบริหารกลไก ถ้ากระสุนอ่อนแรง (ชื้นหรือเก่ามาก) การยิงจะติดขัดทันที
4. มีส่วนนูนของโม่ ทำให้พกไม่แนบเนียน4. ยิงได้เฉพาะกระสุนที่ระบุมากับตัวปืนเท่านั้น (ถึงแม้ว่า .38 Super จะยิง 9 mm ได้ก็ตาม แต่ก็ กรณีฉุกเฉินเท่านั้น)
5. ยิงซ้ำได้ช้า5. การสึกหรอสูงกว่า เพราะมีส่วนเคลื่อนไหวเร็วและรุนแรง (ลำเลื่อน ลำกล้อง นกปืน ฯลฯ)
6. ทำความสะอาดให้ทั่วจริงๆ ได้ยาก6. กระสุนบางแบบ (เช่นหัวกระสุนยาวผิดปกติ) อาจจะติดขัดเวลาป้อนเข้ารังเพลิง ดังนั้นต้องทดลอง ให้แน่ใจในแต่ละแบบของหัวกระสุนว่าใช้กับปืนเราได้
หวังว่าท่านทั้งหลายคงได้ข้อมูลเพิ่มเพื่อช่วยในการตัดสินใจนะครับ

ข้อห้ามสำหรับนักยิงปืน


ท่านที่ชอบแข่งขันยิงปืนประเภทต้องใช้สมาธิในการปั้น 10 เช่นปืนยาวติดกล้องหรือแข่งระบบสากลทั้งหลาย (ไม่รวมเป้าบินและ IPSC) มีหลักป้องกันไม่ให้ล้มเหลวในการแข่งขันอยู่ 10 ประการ ลองอ่านและปฏิบัติดูครับ ถ้าท่านเกิดไปตรงกับข้อหนึ่งข้อใด หลักก็คือ ห้าม ห้าม ห้าม คุยโม้, อวดเก่ง, เล็งนาน, พาลปืน, ฝืนลม, ชมตัวเอง, ตื่นเต้น, ตกใจ, กระตุกไก, กระพริบตา ท่องเป็นกลอนนะครับ จะจำได้ไว้ เพราะคำมันจะสัมผัสกันอยู่แล้ว บางตำราเพิ่มมาอีก 4 ประการได้แก่ เมาถี่, ปวดท้องขี้, หิวข้าว, รองเท้าคับ ขออธิบายเพิ่มเติมดังนี้คือ

1. คุยโม้ ก็คือ ยังไม่ทันแข่งก็คุยซะแล้วว่าจะเอาเหรียญนั้น เหรียญนี้ สร้างแรงกดดันให้ตนเองทำไม

2. อวดเก่ง ประมาทคู่แข่งไม่เห็นอยู่ในสายตา ทำให้ขาดความรอบคอบ

3. เล็งนาน เล็งนานเท่าใดปืนก็ส่ายมาก ตามทฤษฎีก็คือ หลังจากกลั้นหายใจแล้วต้องลั่นไกให้ได้ภายใน 7 วินาที
ถ้ามากกว่านั้น ต้องวางปืนเริ่มหายใจใหม่

4. พาลปืน ยิงไม่ดีเนื่องจากตนเอง ก็ไปพาลว่า ปืนห่วย ไม่ดี ไม่หันมาพิจารณาตนเอง ทำให้ไม่มั่นใจในอาวุธ

5. ฝืนลม ก็เห็นอยู่แล้วว่าลมพัดแร๊งแรง ยอดไม้ไหวลู่ ก็ยังยิงออกไป มันจะเข้า 10 ได้ไง

6. ชมตัวเอง แข่ง 60 นัด ยิง 10 เข้านัดแรก (ฟลุ๊ก) หลงตัวเองแล้วว่าต้องได้ทองแน่ ยังเหลืออีก 59 นัดนะครับ

7. ตื่นเต้น แล้วจะถือปืนนิ่งได้อย่างไร (อันนี้ต้องฝึกนานโดยต้องแข่งมากๆ ๆ ๆ ๆ)

8. ตกใจ เสียงปืนดังแล้วตกใจ หรือตกใจเสียงปืนช่องข้างๆ ก็แย่ซิครับ หาอะไรอุดหูซะ

9. กระตุกไก ยังงี้เข้า 9 ก็บุญแล้ว
10. กระพริบตา ยิงแล้วไม่ follow ศูนย์ แล้วจะเข้า 10 เหรอ

11. เมาถี่ พรุ่งนี้จะแข่ง คืนนี้ยังเมาอยู่เลย อย่ายิงดีกว่าเสียดายกระสุน

12. ปวดท้องขี้ ไม่ต้องอธิบายมาก ยืนยิงไม่ได้หรอกครับ

13. หิวข้าว แล้วเอาแรงที่ไหนมายกปืนจ๊ะ

14. รองเท้าคับ มันกัดเท้าแล้ว ยืนยิงได้หรือจ๊ะ
ผมทดลองมาแล้วซึ่งทั้ง 14 ข้อนั้น เมื่อเราหลีกเลี่ยงและตัดมันออกไปได้แล้ว ผลการยิงจะออกมาดีเลยครับ ปืนดีอย่างเดียวยังไม่พอครับ ใจถึงก็ยังไม่พออีก ต้องไม่ลืม 14 ข้อนี้นะครับ


การปฏิบัติเกี่ยวกับการตรวจค้นบุคคลพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณสถาน

กองวิจัยและวางแผน ส่วนราชการกรมตำรวจ ที่ 0503 (ส)/27663

วันที่ 30 กันยายน 2525

เรื่อง การปฏิบัติเกี่ยวกับการตรวจค้นบุคคลพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณสถาน

ผบช., ผบก., หรือผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่าทุกหน่วยงาน

ตามบันทึก ตร.ที่ 0501/30476 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2517 กำหนดแนวทางในการปฏิบัติของข้าราชการตำรวจ ให้ใช้ดุลพินิจในการตรวจค้น จับกุม ผู้พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณสถานให้เป็นการถูกต้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ได้บัญญัติไว้ ต่อมาได้มีคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 8 ทวิ แห่งพ.ร.บ. อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 ขึ้นอีก ในทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจในปัจจุบันยังคงมีปัญหา เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบบุคคลพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ โดยมีเพียงใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน แต่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตให้พกพาอาวุธปืนติดตัวก็มักจะควบคุมตัวมาดำเนินคดีทุกรายไป ทำให้เป็นที่เดือดร้อนแก่ผู้บริสุทธิที่ถูกตรวจค้นและจับกุม เพื่อให้การปฏิบัติของเจ้าพนักงานตำรวจเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและถูกต้อง จึงขอซักซ้อมความเข้าใจในการปฏิบัติเพิ่มเติมดังนี้ ตามบทบัญญัติ มาตรา 8 ทวิ แห่ง พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519 ข้อ 3 กำหนดว่า ห้ามมิให้ผู้ใดพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว เว้นแต่กรณีต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ไม่ว่ากรณีใด

ห้ามมิให้พกพาอาวุธปืนไปโดยเปิดเผยหรือพาไปในที่ชุมนุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้นเพื่อนมัสการ การรื่นเริง การมหรสพ หรือการอื่นใด

ดังนั้นจะเห็นว่ากฏหมายยังคงเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์นำอาวุธปืนที่ตนมีไว้โดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้พกพาติดตัวไปเพื่อป้องกันตัวและทรัพย์สินได้ภายในขอบเขตที่กฎหมายให้กระทำได้ตามแนวคำชี้ขาดไม่ฟ้องของอธิบดีกรมอัยการเกี่ยวกับการพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้พกพาจากเจ้าพนักงาน ซึ่งถือว่าโดยสถาพเป็นกรณีที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ มีแนวทางพอสรุปได้ดังนี้คือ

1.ถ้าได้นำอาวุธปืนใส่กระเป๋าเก็บไว้ในช่องเก็บของท้ายรถ ซึ่งไม่สามารถหยิบใช้ได้ทันทีทันใด

2.เอาอาวุธปืนใส่กระเป๋าใส่กุญแจแล้ววางไว้ในรถซึ่งไม่สามารถหยิบใช้ได้ทันทีทันใด

3.ไปเก็บเงินจากลูกค้าต่างจังหวัด จำนวนเป็นหมื่นๆ นำติดตัวมาแล้วมีอาวุธปืนได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนแล้วใส่ในช่องเก็บของหน้ารถยนต์เพื่อป้องกันตัวและทรัพย์สิน

4.ไปเก็บเงินจากลูกค้าต่างจังหวัด นำอาวุธปืนติดตัวมาด้วย โดยแยกอาวุธปืนและเครื่องกระสุนออกจากกัน ใส่กระเป๋าเอกสารไว้ที่พนักเบาะหลังรถยนต์

5.ห่ออาวุธปืน และแหนบบรรจุลูกกระสุน (แม็กกาซีน) แยกออกคนละห่อเก็บไว้ในกระโปรงรถยนต์ซึ่งใส่กุญแจ

จึงแจ้งมาเพื่อทราบและแจ้งให้ข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้องทราบเพื่อใช้เป็นดุลยพินิจประกอบการพิจารณาในการปฏิบัติหน้าที่ในเรื่องนี้ต่อไป

ลงชื่อ พล.ต.ท.ณรงค์ มหานนท์ (ณรงค์ มหานนท์)
รองอ.ตร.ปป.ปร.ท.อ.ตร.

จะเห็นว่าการพกพาอาวุธปืนไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้หรือมีช่องให้เล็กน้อยมากหรอกครับ สิ่งที่ทำได้ก็อย่างที่ระบุอยู่ในเอกสารข้างต้น เพราะฉะนั้นถ้าเรามีเหตุจำเป็นก็พกได้ครับตามถนนตรอกซอกซอยก็ได้แต่ต้องไม่ใช่ในที่งานรื่นเริง นมัสการหรือเทศกาลที่คนมารวมกันเยอะๆ แต่ถ้าจะพกไว้โก้ๆ นี่ไม่ควรอย่างยิ่งเลยครับ ลั่นตูมขึ้นมาขอโทษใครไม่ได้ครับ ประมาทอย่างเดียว เพราะทุกคน ก็ทราบดีว่าปืนลั่นไม่ได้ถ้าไม่มีคนทำให้ลั่นใช่ไหมครับ จะว่าไปเอกสารนี้ก็มีอายุอานามพอสมควรแล้วอาจมีการปรับปรุงแล้วก็ไม่ทราบได้ คงต้องติดตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาตินะครับ แต่ว่าผมเพิ่งได้สำเนาเอกสารฉบับนี้มาไม่นานในฐานะเอกสารประกอบการเรียนชิ้นหนึ่งจึงคิดว่าน่าจะยังคงบังคับใช้อยู่ครับ

การวอร์มปืน


ท่านที่ชอบแข่งยิงปืน มีเคล็ดไม่ลับเล็กน้อยมาบอกท่านดังนี้ ท่านทราบหรือไม่ว่า ก่อนใช้ปืนยิงแข่งเพื่อทำคะแนนแบบปั้น 10X นั้น ปืนนั้นควรจะต้องถูกวอร์ม (อบอุ่น) เสียก่อน3-5 นัดก่อนยิงบันทึกคะแนน ถ้าท่านเคยสังเกตไหมว่า ท่านตั้งศูนย์ปืนดีแล้วเมื่อวาน แล้วล้างปืนเก็บเพื่อรอแข่งวันรุ่งขึ้น เมื่อท่านยิงนัดแรก และนัดที่ 2 บันทึกคะแนนเลยโดยไม่วอร์มปืน ท่านจะพบว่าลูกปืนของท่านนั้นไม่ได้วิ่งไปในทิศทางที่ท่านตั้งศูนย์ไว้ (ปืนยาวจะเห็นชัดที่สุด) ดังนั้น ควรหาทางวอร์มปืนเพื่อ

1. ให้ลำกล้อง รังเพลิงร้อนและโลหะขยายตัวให้พอเหมาะ
2.สร้าง แรงเสียดทานในลำกล้องให้สม่ำเสมอ เพราะปืนล้างใหม่เมื่อยิงกระสุนนัดแรก นัดสอง ลำกล้องยังสะอาด ลูกจะวิ่งเร็วผิดปกติและทิศทางไม่แน่นอน

ข้อสังเกต ยังมีนักยิงปืนทีมชาติบางท่าน มักจะตั้งศูนย์ปืนก่อนแข่ง 1 วันตอนเย็น และจะไม่ล้างลำกล้อง พอแข่งเช้าก็ยิงเลข กลุ่มกระสุนก็จะพอดี ไม่เปลืองลูกวอร์มปืน (ผมไม่เห็นด้วย ยังไงล้างปืนแล้ววอร์มปืนก่อนแข่งดีที่สุด) ลองดูนะครับ 

ผู้ผลิตอาวุธปืน

40 S&W PageDakota Arm's Inc.Makarov - Russian BaikalSpringfield Armory Online
Alley Supply CompanyDaisy ManufacturingM1 GarandSTI International
American Firearm PageEagle GripsM1/M2/M3 carbineTaurus
Aro-Tek Ltd.Ed Brown ProductsMarlinThompson Center Arms
AR-15 Parts GuideFirearms CoalitionMauser-Werke OberndorfUnofficial Thompson
ArmaliteF. J. Vollmer & CompanyMaadi-GriffinUnofficial Tommy
Barrett FirearmsFreedom Arms Inc.Martini GalleryTraditions Muzzleloaders
Benchmade KnivesFulton ArmoryInternational MilitaryU.S. Repeating Arms
BerettaGlockO.F. Mossberg and SonsVolquartsen - Custom .22
Benelli Armi SpAGonic ArmsNorth American ArmsThe M-1911 Pistols
Blount Inc.Hogue GripsOlympic ArmsWilson Combat
BrileyHammerliOehler ResearchWinchester Ammunition
BrowningHi-Point Firearms/MKSPachmayrWolff Springs
BushnellThe Unofficial HK USPPara-OrdnanceYukon Arms
BurrisMakarov Izhevsk WeaponRansom Rests International
Bul TransmarkIzhmash CorporationRemington
Bushmaster/Quality PartsIthaca Gun CompanyRedfield's Optics
Carl GustafKel-TecRossi
Century Intl. ArmsKimberRuger Firearms
Ceska ZbrojovkaLazzeroni Arms CompanySako Ltd.
Classic Arms Inc.Lee-Enfield RiflesJ.P. Sauer
Cobra Belt HolstersLes Baer Custom Inc.SigArms
ColtLeupoldThe Unofficial SIG
Colt Autos Home PageMagnum Research Inc.Smith & Wesson

ศูนย์เล็งเรืองแสง


ศูนย์เล็งเรืองแสง (Pistol & Revolver Tritium Night Sights) เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพปืนพกของ ท่านที่มีอยู่
แล้ว ให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ท่านสามารถมองเห็นศูนย์หน้า และ ศูนย์หลังได้ทั้ง
ในเวลากลางวันที่สภาพทัศนะวิสัยจำกัด และในเวลากลางคืน ท่านสามารถเล็งกระบอกปืนของท่านให้ถูกเป้าหมาย
ในเวลากลางวันเป็นสิ่งที่ไม่ต้องใช้ความพยายามมากมายนัก เมื่อท่านฝึกฝนมาดี แต่ถ้าท่านต้องใช้ปืนของท่าน
ในสภาวะ ที่มีแสงสลัว หรือมืดสนิทล่ะครับ การที่จะยิงให้ถูกเป้าหมายนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ง่ายเลย เพราะท่านจะมองไม่
เห็นศูนย์หน้าศูนย์หลัง ปัจจุบันทางการทหารทั่วโลก ได้มีการเพิ่มประสิทธิภาพในการรบกลางคืนทุกรูปแบบ
เพราะรบกันแต่ละครั้งก็อาศัยความมืดของธรรมชาติเป็นฉากพราง ทั้งนั้น ไม่ค่อยนิยมปฏิบัติการในเวลากลางวัน
FBIได้ให้สถิติที่น่าสนใจว่า กว่า 80%ของการใช้อาวุธปืนมักจะเกิดขึ้นในเวลากลางคืน ( No Light ) หรือ แสงสลัว ( Low
Light ) การทาสีขาวสามจุดกับศูนย์เล็งช่วยเล็งได้เฉพาะเวลากลางวันเท่านั้น ปืนรุ่นใหม่บางรุ่น จะติดศูนย์เล็งเรือง
แสงเป็นมาตราฐานจากโรงงานมาเลย
แต่ถ้าปืนของท่านไม่ได้ติดศูนย์เรืองแสงมาก็ไม่เป็นไรนะครับ ท่าน
สามารถติดเพิ่มได้ ซึ่งศูนย์เรืองแสงจะทำมาจากสารเรืองแสงด้วยตัวเอง
มีชื่อว่า ทริเทียม (Tritium) บรรจุอยู่ในรูป ของแก็สในหลอดแก้วใส
ชนิดพิเศษ อายุการใช้งานนานถึง 12ปี ไม่ต้องใช้แบเตรี ไม่ต้องปรน
นิบัติบำรุง ไม่เพิ่มน้ำหนัก ไม่กินเนื้อที่ ติดตั้งง่าย และที่สำคัญไม่แพง(มาก)
ใช้ได้กับปืนพกแทบทุกชนิด ทั้งที่เป็น ศูนย์เล็งแบบคงที่ (Fixed Sight)
หรือจะเป็นศูนย์เล็งแบบปรับได้ (Adjustable Sight) 
ท่านสามารถนำศูนย์เล็งเรืองแสงไปติดแทนศูนย์เดิมที่ใช้อยู่ได้ โดยไม่มีการ ดัดแปลงกลไกของปืนแต่อย่างใด
คืนนี้ท่านลองหยิบปืนคู่ใจของท่านมาลองเล็งดูว่า ท่านสามารถมองเห็น ศูนย์หน้า-ศูนย์หลังของปืนท่านได้หรือเปล่า
และถ้าท่านต้องการเพิ่มความมั่นใจว่าปืนคู่ใจของท่านใช้งานได้ตลอดเวลา หรือ Around the Clock ในทุกสภาพ
อากาศแล้วละก็ รีบหามาติดซะนะครับ

กฏแห่งความปลอดภัย


1. เมื่อจับปืนทุกครั้งให้พึงระลึกเสมอว่าปืนทุกกระบอกมีกระสุนบรรจุอยู่
2. ตรวจปืนทุกครั้งที่จับว่ามีกระสุนบรรจุอยู่หรือไม่ มีวัสดุใดติดค้างอยู่ในลำกล้องหรือไม่
3. อย่าเล็งปืนไปที่บุคคล สิ่งมีชีวิต หรือสิ่งของมีค่า ถ้าผู้ยิงไม่ต้องการยิง
4. อย่าเล็งปืนไปทางวัสดุอื่นใดที่อาจทำให้หัวกระสุนปืนสะท้อนกลับหรือแฉลบได้ เช่นวัสดุที่มีผิวแบนแข็ง ผิวน้ำ
5. อย่าพูดคุยกับผู้อื่นในขณะยิงปืน
6. อย่าทิ้งปืนที่บรรจุกระสุนปืนไว้ในที่ซึ่งมีบุคคลอื่น โดยเฉพาะเด็กอาจหยิบฉวยเอาไปเล่นได้ง่าย
7. อย่าหันปากกระบอกปืนไปทางด้านข้างหรือด้านหลัง ขณะจับปืนอยู่ในแนวยิง
8. เมื่ออยู่ในห้องฝึกหรือสนามยิงปืนต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตามผู้ควบคุมการฝึกอย่างเคร่งครัด
9. ถ้าไม่เก็บปืนไว้ในซองปืน ต้องจับในลักษณะเปิดลูกโม่ หรือให้โครงเลื่อนปืนอยู่ในลักษณะค้างโครงเลื่อนปืนไว้
10. การส่งปืนให้ผู้อื่น ต้องส่งปืนในลักษณะเปิดลูกโม่ หรือให้โครงเลื่อนปืนอยู่ในลักษณะค้างโครงเลื่อนปืนไว้


ขั้นตอนการขอซื้ออาวุธปืน



คุณสมบัติผู้ขออนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน
- บรรลุนิติภาวะ
- สภาพร่างกายปกติไม่พิการหรือทุพพลภาพ
- ไม่เป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
- มีชื่อในทะเบียนบ้านและมีถิ่นที่อยู่ประจำในท้องที่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- ไม่เคยต้องโทษจำคุกคดีอาญา
เอกสาประกอบคำขออนุญาต
การขออนุญาตซื้ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน
ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการอื่นๆ หรือพนักงานองค์กรของรัฐ
- บัตรประจำตัวข้าราชการหรือพนักงาน (ตัวจริงพร้อมสำเนา)
- ทะเบียนบ้าน (ตัวจริงพร้อมสำเนา)
- หนังสือรับรองจากผู้บังคับบัญชารับรองตำแหน่งหน้าที่ เงินเดือน ความประพฤติ และ เหตุผลความจำเป็นที่ขออนุญาต ที่ออกให้ไม่เกิน 6 เดือน
- ผู้ออกหนังสือรับรองต้องเป็นผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดระดับผู้อำนวยการกอง หรือเทียบเท่าขึ้นไป
- ข้าราชการตั้งแต่ระดับผู้อำนวยการกอง หรือเทียบเท่าขึ้นไปไม่ต้องมีหนังสือรับรอง
- หลักฐานแสดงว่าผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน
ข้าราชการทหาร หรือตำรวจ
- บัตรประจำตัวข้าราชการ (ตัวจริงพร้อมสำเนา)
- ทะเบียนบ้าน (ตัวจริงพร้อมสำเนา)
- หนังสือรับรองจากผู้บังคับบัญชารับรองตำแหน่งหน้าที่ เงินเดือน ความประพฤติ และ เหตุผลความจำเป็นที่ขออนุญาต ที่ออกให้ไม่เกิน 6 เดือน
- ผู้ออกหนังสือรับรองต้องเป็นผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดที่มียศพันเอกหรือพันตำรวจเอกขึ้นไป
- ผู้ที่มียศตั้งแต่พันเอกหรือพันตำรวจเอกขึ้นไปไม่ต้องมีหนังสือรับรอง
- หลักฐานแสดงว่าผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน
ประชาชนทั่วไป หรือผู้ประกอบอาชีพอื่น
- บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริงพร้อมสำเนา)
- ทะเบียนบ้าน (ตัวจริงพร้อมสำเนา)
- หลักฐานประกอบอาชีพ อาทิเช่น หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท ห้างหุ้นส่วน หรือร้าน หากเป็นลูกจ้างหรือรับจ้างต้องมีหนังสือรับรองตำแหน่งหน้าที่เงินเดือนจากผู้มีอำนาจจัดการของกิจการนั้นหรือเจ้าของแล้วแต่กรณี หากมิได้มีอาชีพรับจ้าง ต้องมีเอกสารประกอบตามที่อ้างอิง อาทิเช่น ทำสวน ทำไร่ ติดต่อค้าขายที่ หรือค้าขายย่อย หรือเร่ขาย โดยไม่ได้จดทะเบียน ต้องนำหลักทรัพย์ เช่น โฉนดที่ดิน เงินฝากธนาคาร (Statement) หรือหลักฐานอื่นเพื่อประกอบการพิจารณา
- หนังสือรับรองความประพฤติและเหตุผลความจำเป็นที่ขออนุญาตจากข้าราชการระดับ 6 ขึ้นไป หรือตำแหน่งเทียบเท่าขึ้นไป
- พิมพ์ลายนิ้วมือตรวจสอบประวัติ และสืบสวนความประพฤติ
- หากขออนุญาตเพื่อการกีฬาจะต้องนำหลักฐานการเป็นสมาชิกสนามยิงปืนมาแล้วไม่น้อยกว่า 60 วัน มาประกอบการพิจารณา
- หลักฐานแสดงว่าผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน
การขออนุญาตซื้ออาวุธปืนจากบุคคล(รับโอน)
- หลักฐานเช่นเดียวกับการขออนุญาตซื้ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนจากร้านค้า
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้โอนพร้อมสำเนาใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน(ป.4)ของอาวุธปืนที่จะโอน
- หลักฐานแสดงว่าผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน
- หากขออนุญาตเพื่อการกีฬาจะต้องนำหลักฐานการเป็นสมาชิกสนามยิงปืนมาแล้วไม่น้อยกว่า 60 วัน มาประกอบการพิจารณา
- ภายหลังที่ได้รับอนุญาตผู้โอน(เจ้าของเดิม) กับผู้ขอรับโอน ต้องบันทึกการยินยอมการโอนต่อหน้านายทะเบียนไว้ในหลังใบอนุญาต(ป.4) ว่าโอนปืนกระบอกนี้ ให้ใคร มีค่าตอบแทนเท่าไร หรือโอนไม่คิดค่าตอบแทนเนื่องจากอะไร แล้วลงนามไว้เพื่อเป็นหลักฐานทั้ง2ฝ่าย(ผู้โอน+ผู้รับโอน)
การขอรับโอนอาวุธปืนมรดก (เจ้าของปืนตาย)
- ผู้ที่มีอาวุธปืนหรือใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน(ป.4) อยู่ในครอบครองต้องแจ้งการตายต่อนายทะเบียนท้องที่ภายใน30 วัน นับแต่วันที่ตายพร้อมนำใบอนุญาต(ป.4) และอาวุธปืนมอบให้นายทะเบียนด้วย
- ใบมรณบัตร พร้อมสำเนา
- สำเนาคำสั่งศาลกรณีศาลแต่งตั้งผู้จัดการมรดก
- ถ้ามีผู้จัดการมรดกเสนอได้เลย
- ถ้าไม่มีผู้จักการมรดก ต้องสอบทายาททั้งหมด ว่ายินยอมสละปืนแล้วเสนอนายทะเบียนฯ
- ผู้ขอรับโอนปืนมรดกนำหลักฐานเอกสารประกอบคำร้องเช่นเดียวกับการขอรับโอนอาวุธปืนจากบุคคลมายื่นต่อ
นายทะเบียนท้องที่พร้อมเอกสารข้างต้น
- หลักฐานแสดงว่าผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน
- นำอาวุธปืนที่ขอรับโอนไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบในวันที่ยื่นคำร้อง
การแจ้งการย้ายอาวุธปืน
- ต้องยื่นคำร้องขอย้ายอาวุธปืนต่อนายทะเบียนท้องที่เดิม และนายทะเบียนท้องที่ซึ่งย้ายไปอยู่ใหม่ภายใน 15 วัน นับแต่วันย้ายออกไปและวันที่ไปถึง
- ทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
- บัตรประจำตัว (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
- นำอาวุธปืนไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
- ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
การออกใบแทนหรือคัดสำเนาใบอนุญาตอาวุธปืน

- ทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)

- บัตรประจำตัว (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
- กรณีใบอนุญาตสูญหาย แจ้งความสถานีตำรวจท้องที่ที่ใบอนุญาตหาย แล้วนำใบแจ้งความพร้อมคัดสำเนาประจำวันด้วย
- นำอาวุธปืนไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ

อัตรค่าธรรมเนียมอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน


1. ใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน

- ปืนยาวประจุปาก ปืนอัดลม ฉบับละ 100 บาท
- ปืนอื่นๆ ฉบับละ 500 บาท
2. ใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ฉบับละ 1,000 บาท
3. ใบอนุญาตให้ซื้ออาวุธปืน กระบอกละ 5 บาท
4. ใบอนุญาตให้ซื้อกระสุนปืน นอกจากกระสุนอัดลมร้อยละหรือเศษของร้อย1 บาท
5. ใบแทนใบอนุญาต
- ใบแทนใบอนุญาติให้ทำ ค้าอาวุธปืน
เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด ฉบับละ 20 บาท
- ใบแทนใบอนุญาตให้ประกอบซ่อมแซม
หรือเปลี่ยนลักษณะอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ฉบับละ 15 บาท
- ใบแทนใบอนุญาตอื่นๆ ฉบับละ 5 บาท
ไม่ต้องจ่ายค่าบริการอื่น นอกจากค่าธรรมเนียมเท่านั้น
สถานที่ติดต่อ : ศูนย์บริการประชาชนกรมการปกครอง
วังไชยา นางเลิ้ง ถนนนครสวรรค์
เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300
โทร. 0-2356-9552

อยากพกพาปืน ทำอย่างไรดี


หลายๆท่านเมื่อมีปืนแล้ว ก็อยากจะนำติดตัวไปด้วยเพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สิน เพราะตามกฏหมาย ใบ ป.4 เพียงแค่อนุญาตให้ท่านมีและใช้ เท่านั้นไม่ให้พกพาไปไหนมาไหน ไอ้ครั้นจะหวังพึ่งตำรวจ ก็พึ่งได้ยากเสียเหลือเกิน ก็ขนาดสถานฑูต ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญ ยังปล่อยให้คนพกทั้งปืนกล ระเบิดมือไปยึดได้ง่ายๆแบบนั้น ก็หมดหวังละครับ
ทีนี้เราจะทำยังไงกันดี ที่จะพกปืนแล้วไม่ผิดกฏหมาย ตรงนี้ กฏหมายท่านให้ช่องไว้ครับ แต่อยากจะบอกว่าช่องนี้มันเล็กเหลือเกิน แถมมันไม่แน่นอนไม่มีกฎตายตัวเสียด้วย คือท่านต้องยื่นเรื่องขอใบอนุญาตพกพาครับ (ป.12) ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเท่านั้นที่มีอำนาจออกให้ได้ครับ เป็นไงครับ ใหญ่โตดีไหม ออกใบพกปืน 1 ใบ ต้องให้รัฐมนตรีออก แถมออกตามดุลยพินิจเสียด้วย ท่านหมั่นไส้ใครไม่ออกให้ ก็ทำอะไรท่านไม่ได้หรอกนะครับ แต่ถ้าท่านคิดว่าท่านเส้นดีๆ ก็ลองทำดูครับเผื่อจะได้มา แต่เมื่อได้มาแล้วลองอ่านๆดูจะได้สาระดังนี้ว่า ท่านห้ามพกปืนไปในที่สาธารณะ ที่ที่มีงานนมัสการ งานสมโภส ห้ามพกโดยเปิดเผย กล่าวคือ ใบ ป.12 ให้พกได้ตามป่าเขาครับ แต่ทว่าในหลักความเป็นจริง ตำรวจมักเกรงใจคนมีใบ ป.12 ครับ ด้วยความที่ ขอยาก และรัฐมนตรีเป็นคนเซ็น คนที่มีใบนี้ก็คงไม่ขี้ไก่เสียทีเดียว
มาถึงตอนนี้ หลายๆคนคงเริ่มท้อเสียแล้วว่ามีปืนแล้วพกไม่ได้จะมีทำไม ยังครับ ยังมีวิธีพกอยู่ มีกฏหมายอยู่ข้อหนึ่งบัญญัติไว้ว่า " ห้ามมิให้ผู้ใดพาอาวุธปืนติดตัวไป ในเมือง ในหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว เว้นแต่กรณีที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ "
เว้นแต่กรณีที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ประโยคนี้เองครับเป็นทางออกแก่ผู้ที่สิ้นหวังอย่างเราๆท่านๆ แล้วจะทำอย่างไร หรือรู้ได้อย่างไรครับว่าอันไหนเร่งด่วน ไม่เร่งด่วน จำเป็นหรือไม่จำเป็น และควรหรือไม่ควร อันนี้เป็นเรื่องที่ผมเคยได้ยินและได้อ่านมา ไม่ขอรับรองและให้ยึดเป็นหลัก เพื่อนที่อ่านควรศึกษาเพิ่มเติมด้วยและโปรดใช้ความคิดประกอบในการอ่าน กล่าวคือ เมือจะพก ไปควรพกอย่างปกปิด ถ้าจะให้ดี ต้องทำให้ปืนอยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมยิง หรือยิงยากที่สุดที่จะมากได้ เช่น มีโครงปืนอยู่ลิ้นชักหน้ารถ ลูกอยู่ในกล่องท้ายรถ ลำสไลด์ อยู่กระโปรงท้ายรถ มีล็อกอย่างดี อันนี้ ท่านว่าน่าจะหลุด 98 % คือยิ่งทำให้หยิบมาใช้งานยาก เปเซ็นการไมèโดนจับก็ มากขึ้นไปด้วย อันต่อไปก็คือ ความจำเป็น อย่างไรจึงเรียกว่าจำเป็น ถ้าท่าน โดนขโมยขโมยรถแล้วหนีไป ต่อหน้าต่อตา ท่านหยิบปืนออกไปตามขโมยอันนี้พอจะถือได้ว่าจำเป็น เพราะท่านมีสิทธิที่จะปกป้องทรัพย์สินของท่าน และท่านไม่รู้ว่า ขโมยดังกล่าวมีอาวุธหรือไม่ แต่หากท่านหยิบไปเพราะท่านโดนขโมยรถ เมื่อ เดือนที่แล้ว อันนี้ความจำเป็นของท่านคงหมดไปแล้ว
สำหรับเพื่อนๆที่สนใจ เรื่องนี้อยากให้ลองไปหาอ่านเพิ่มเติม ตามหนังสือกฏหมายจะได้ข้อมูลดีขึ้น สำหรับการพกข้อต่อไป ซึ่งหลายๆคนใช้วิธีนี้อยู่คือ พกได้ตราบจนตำรวจไม่พบปืนของท่าน อันนี้ไม่มีใบ ป.12 ก็พกได้นะครับ แต่โดนจับแล้วไม่ค่อยจะคุ้ม ต้องเสียค่าปรับ เผลอๆอาจจะโดนริบปืนได้อีกนะครับ
ส่วนกรณีที่ท่านโดนจับแล้วจะทำยังไง อันนี้มีรุ่นน้องผมโดนนะครับ ก็เล่าให้ฟังเป็นอุธาหรณ์ รุ่นน้องผมต้องขับรถระหว่างกรุงเทพ กาจนบุรี อยู่บ่อย แกก็พกปืนที่มีใบ ป.4 เรียบร้อย โดยไว้ที่ลิ้นชักหน้ารถ โดยปืนอยู่ในสภาพพร้อมยิง มีกระสุนในรังเพลิงอยู่ 1 นัด พอมาถึงกรุงเทพ แกก็แวะพักทานข้าวที่ ป.กุ้งเผาก่อน แล้วก็เป็นเรื่องครับ ตำรวจขอตรวจค้นก็เจอปืนจนได้ เป็น โค้ลท์ โกลคัพ 11 มม. ก็มีทะเบียนเรียบร้อยแหละครับ แต่ตำรวจท่านก็ไม่สนล่ะครับทำตามหน้าที่ ขนาดรุ่นน้องผมจะให้เงิน ท่านก็ไม่ยอม ก็ขอยกย่องไว้ตรงนี้นะครับ ในที่สุดท่านก็พาไปโรงพัก ร้อยเวรก็ลงบันทึกประจำวัน แล้วก็ยึดปืนไว้ตรวจสอบ ก็รอประมาณเดือนกว่าๆแหละครับ ถ้าปืนไม่มีปัญหา ก็ไปรับปืนคืนแล้วเสียค่าปรับ ยังดีนะครับ ที่เค้าไม่ลงโทษมากกว่านั้น
ยังไงเพื่อนๆก็ลองคิดๆดูแล้วกันครับไม่จำเป็นอย่าพกเลยเสียทั้งเงินทั้งเวลา และที่อยากจะฝากไว้เลยนะครับ กรณีที่ท่านพกปืนอยู่กับตัว แล้วโดนตำรวจตรวจค้น ( คือยังไงเค้าก็เจอปืนท่านแน่ๆ ) ให้รีบบอกตำรวจก่อนครับ ว่าเราพกปืนไว้ อ้อ บอกนะครับ ไม่ใช่ขู่ ส่วนตำรวจจะหยิบปืนขึ้นมาเองก็ไม่เป็นไร หรือว่า ถ้าตำรวจให้เราหยิบปืนออกมา ให้ค่อยๆหยิบนะครับ แล้วนิ้วห้ามเข้าไปอยู่ในโกร่งไกเด็ดขาด แล้วค่อยๆหันด้าน ด้ามปืนส่งไปให้ตำรวจนะครับ อย่าไปชักแบบจะยิงเป็นอันขาด ท่านอาจโดนยิงก่อนได้นะครับ ที่สำคัญถ้าตำรวจเค้าอ้างว่าท่านขัดขืนการจับกุมและพยายามต่อสู้ ท่านจะตายฟรีเสียปล่าวๆ